ใครที่กำลังมองหาสถานที่แฮงเอ้าท์ใหม่ๆ หรืออยากไปทำกิจกรรมสนุกๆ ท้าทาย ห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะวันนี้เราจะมาบอกต่อ 3 สถานที่กับ 3 กิจกรรมสุดคูลที่อยู่ในย่านลาดพร้าว-รัชดา ยิ่งถ้ามาจากลาดพร้าว 44 ใช้เวลาในการเดินทางไม่ถึง 10 นาทีแน่นอนค่ะ

• • สวนรถไฟ (สวนวชิรเบญจทัศ)
    สวนวชิรเบญทัศ หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “สวนรถไฟ” ตั้งอยู่ติดกับตลาดนัดจตุจักร บนพื้นที่กว่า 375 ไร่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์และบึงน้ำขนาดใหญ่ซึ่งถือเป็นแหล่งออกซิเจนชั้นดีของกรุงเทพฯ ภายในมีกิจกรรมให้ทำมากมาย อาทิ การปั่นจักรยาน ถีบเรือเป็ดน้ำ อุทยานผีเสื้อและแมลง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีศูนย์อาหารและเครื่องดื่มไว้คอยบริการอีกด้วย เหมาะไปพักผ่อนหย่อนใจรับบรรยากาศชิวๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์มากเลยค่ะ
    เปิดทุกวัน เวลา 05.00-21.00 น.

• • Bounce (The Street รัชดา)
    ใครรักการทำกิจกรรมท้าทาย และได้ออกกำลังกายไปด้วย ต้องมาที่ Bounce The Street รัชดาเลยค่ะ แลนด์มาร์คสำหรับคนที่รักการทำกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ กิจกรรมปีนเขาในที่ร่ม แทรมโพลีน และอีกมากมายที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์แอดเวนเจอร์ในรูปแบบใหม่
    เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.

• • สวนลุมไนท์บาซาร์รัชดาภิเษก
    ตลาดนัดที่ตั้งอยู่หัวมุมสี่แยกลาดพร้าว-รัชดา โดยโซนตลาดนัดจะเริ่มวางขายกันช่วงเย็นซึ่งมีทั้งร้านเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า ของที่ระลึก รวมถึงของวินเทจมากมาย อีกทั้งยังมีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มที่มาในรูปแบบ Food Truck เก๋ๆ เหมาะแก่การไปนั่งถ่ายรูปได้เลยค่ะ ใครอยากลองแวะมาก็ง่ายๆ เพียงลงที่ MRT ลาดพร้าวแล้วออกทางออกที่ 1 ก็ถึงเลย
    เปิดทุกวัน เวลา 16.00-24.00 น.

ใช้ชีวิตชิคๆ บนย่านรามคำแหงกับ 4 คาเฟ่มีสไตล์ ใครชอบร้านไหน ก็เตรียมท้องให้ว่างและไปลุยกันเลยค่า

1. Flower Pot Cafe รามคำแหง 21
ร้านคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์เหมือนกับชื่อร้าน พร้อมเมนูขนมมากมาย อาทิ บาน็อฟฟี่ เค้กช็อกโกแล็ต คัพเค้ก และเครื่องดื่มหลากหลายเมนู ใครกำลังมองหาร้านอาหารอร่อยในราคาที่ไม่แพง แถมยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติรอบตัว แนะนำเลยค่ะ เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.

2. Ikuma Koffy รามคำแหง 24
คาเฟ่คนรักหมีเพราะในร้านเต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่เหมาะแก่การถ่ายรูปมาก นอกจากนี้ยังมีเมนูให้เลือกทานได้จุใจ ทั้งเค้ก เบเกอรี่ รวมถึงเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ใครที่เป็นสายอ่อนไหวกับตุ๊กตาหมี และอยากชิมเค้ก เครื่องดื่มรสชาติดีก็ไปลุยกันได้เลย เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น.

3. Cafe Now by Prapaganda
Cafe Now ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของออฟฟิศ Propaganda ด้านในตกแต่งแบบเท่ๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์หลากหลายแบบ ที่มีความเป็นวินเทจผสมกับอินดัสเทรียลเบาๆ น่าจะถูกใจคนชอบถ่ายรูปค่ะ ส่วนใครที่อยากได้บรรยากาศชิลล์ ๆ ก็สามารถออกมานั่งด้านนอก พูดคุยงาน หรือจิบกาแฟเพลิน ๆ ที่ด้านนอกได้ค่ะ ร้านเปิดทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 16.00 น.

4. I’m Fine Cafe รามคำแหง 110
ร้านอาหารที่เสิร์ฟทั้งของคาวและของหวานให้คุณเลือกทานได้มากมาย อาทิ ข้าวไข่ข้นซอสต้มยำกุ้งน้ำข้น อกไก่อบผักโขมชีส เป็นต้น ภายในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจผสมกลิ่นอายความเป็นลอฟท์ อีกทั้งยังมีวิวทะเลสาบให้ชมได้เพลินๆ อีกด้วย เปิดทุกวัน เวลา 08.30-20.30 น.

ห้องน้ำ Minimal Style เรียบง่ายแต่ฟังก์ชั่นครบ Living Nest ลาดพร้าว 44 ได้ออกแบบห้องน้ำอย่างลงตัว โดยแบ่งพื้นที่เปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจนด้วยกระจก Tempered Glass แบบไร้ขอบ แผ่นกว้าง ทนทาน ช่วยให้เกิดสัดส่วนที่สวยงาม ทำความสะอาดได้ง่าย และป้องกันเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ที่จะทำให้ห้องน้ำของคุณกว้างขึ้นไปอีก พร้อมพื้นที่เก็บอุปกรณ์อย่างเป็นระเบียบ

ใครชอบหิวตอนดึก และกำลังมองหาแหล่งรวมของกินยามค่ำคืนบอกเลยว่าต้องถูกใจแน่นอน เพราะวันนี้เราจะมานำเสนอแหล่งรวมอาหารอร่อยของกรุงเทพในตลาดโชคชัย 4 ที่หลายๆ คนน่าจะคุ้นชื่อกันดีแต่ยังไม่เคยมา ซึ่งเป็นแหล่งที่รวมอาหารอร่อยมากมายหลายประเภท ทั้งของคาว ของหวาน และที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย

มาถึงที่นี่แล้วก็ต้องมาลองชิมให้หมด เพราะมีร้านอาหารมากมายจนตาลาย ชวนน้ำลายสอกันเลย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน หมูสะเต๊ะ ส้มตำ ยำมะม่วง กระเพาะปลา อาหารทะเล เต้าทึง หรืออาหารสัญชาติเวียดนามอย่าง ก๋วยจับญวน และเฝอที่มีน้ำจิ้มหลากหลายรสชาติ อีกทั้งยังมีอาหารมังสวิรัติสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์อีกด้วย สำหรับสายรักสุขภาพก็มีร้านสลัดผัก และผลไม้มากมาย อาทิ กล้วย เงาะ ส้ม ทุเรียน มังคุด น้อยหน่าและอีกมากมายที่คุณเลือกทานได้อยากหนำใจแน่นอนค่ะ

ตลาดโชคชัย 4 เปิดทำการทุกวัน เวลา 15.00-01.00 น.

ด้วยลวดลายและสีสันที่สวยงามของลายไม้ทำให้ห้องของคุณเกิดความอบอุ่น ดังนั้นถ้าใครชื่นชอบห้องสไตล์นี้เป็นพิเศษ วันนี้เรามีวิธีแต่งห้องแบบง่ายๆ มาฝากกันค่ะ

1. เลือกใช้โทนสีน้ำตาล
อาทิ สีไข่ไก่ สีน้ำตาลอ่อน รวมไปถึงสีน้ำตาลเข้ม เพราะสีโทนนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นได้เป็นอย่างดี

2. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Bulid In ลายไม้
เพื่อให้เกิดความลงตัวของการตกแต่งห้อง และทำให้ห้องเป็นสัดส่วนดูสวยงาม

3. เลือกใช้สีที่ต่างกัน แต่อยู่ในโทนเดียวกัน
เพราะหากคุณเลือกใช้สีเดียวกันหมด ทุกอย่างก็จะดูกลืนกันจนเกินไป ทำให้ห้องไม่เกิดมิติและทำให้ห้องดูแคบ

แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเวลา และเสียเงินแต่งห้องเอง ต้องมาที่ Living Nest ลาดพร้าว 44 เลยค่ะ เพราะที่นี่เรามีแนวคิดสร้างความอบอุ่นอย่างลงตัว และได้ออกแบบห้องมาได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

Less is More นิยามการแต่งห้องแบบมินิมอล ที่น้อยแต่มากด้วยประโยชน์ใช้สอย ใครใฝ่ฝันอยากแต่งห้องแนวนี้ ต้องอ่าน 4 วิธีที่จะทำให้ห้องของคุณกลายเป็นมินิมอลสไตล์ได้ดั่งใจ

1. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เรียบง่าย ดีไซน์สวยงาม
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นควรจะมีรูปทรงและดีไซน์ไปในทิศทางเดียวกัน และควรเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อความลงตัวของการแต่งห้องนั่นเอง

2. เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ Built In
เพราะจะทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วน สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งยังเป็นการประหยัดพื้นที่ใช้สอยอีกด้วย

3. เลือกใช้สีอ่อน หรือโมโนโทน
อาทิ สีจำพวกเอิร์ธโทน สีขาว สีฟ้า สีเขียว หรือสีน้ำตาล เป็นต้น เพราะสีเหล่านี้จะช่วยให้ห้องดูอบอุ่น ร่มรื่น สบายตาและผ่อนคลาย

4. ทุกอย่างต้องดูสบายตา
การที่ห้องจะดูสบายตาได้ ต้องเกิดจากความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งแน่นอนว่าอย่าทำให้ห้องรกเด็ดขาด และควรหลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาตกแต่งในห้อง

ลาดพร้าว ทำเลที่กำลังพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อทุกการเดินทางให้สะดวกมากกว่าเดิม อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ซึ่งเหมาะทั้งการอยู่อาศัยและลงทุนด้วย 4 ปัจจัยต่อไปนี้

สังคมบ้านเดี่ยว
ในทำเลลาดพร้าว ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสังคมแบบบ้านเดี่ยว โดยเฉพาะบริเวณซอยลาดพร้าว 44 ที่เป็นสังคมที่สงบ และบริเวณโดยรอบเป็นสวนสีเขียว มีพันธุ์ไม้ที่ให้ร่มเงาและร่มรื่น เย็นสบายเหมาะแก่การอยู่อาศัย

ครบด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก
ลาดพร้าวยังเป็นทำเลที่อุดมไปด้วยศูนย์การค้ามากมายตลอดเส้นทาง อาทิ
– ยูเนี่ยนมอลล์
– เซ็นทรัลลาดพร้าว
– สวนลุมไนท์บาซ่ารัชดาภิเษก
– บิ๊กซี เอ็กตร้า
– โฮมโปร
– ออมนิ ลาดพร้าว
– ตลาดนัดสวนจตุจักร
– เดอะมอลล์บางกะปิ
– เมเจอร์รัชโยธิน
– ตลาดโชคชัย 4
– ตลาดสดภาวนา

อุ่นใจเมื่อยามป่วยไข้
โรงพยาบาลที่อยู่ย่านลาดพร้าวก็มีอยู่ด้วยกันถึง 3 แห่งด้วยกัน อาทิ
– รพ. เปาโลเมโมเรียล โชคชัย 4
– รพ. ลาดพร้าว
– รพ. เวชธานี

สะดวกทุกการเดินทาง
ในปัจจุบันมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT หัวลำโพง-บางซื่อ) เปิดให้บริการ ซึ่งในอีก 3 ปีก็จะมีการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) โดยจะมีสถานีภาวนาตั้งอยู่บริเวณหน้าปากซอย คอนโด Living Nest ลาดพร้าว 44 รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นี้

🌧การดูแลรักษาคอนโดมิเนียมในช่วงหน้าฝน ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะช่วงฝนตกบ่อยๆ อาจทำให้ห้องคอนโดอับชื้น และดูไม่น่าอยู่ วันนี้เราจึงนำ 4 วิธีขั้นเบสิคที่จะทำให้คุณดูแลห้องคอนโดได้อย่างง่ายๆ มาแนะนำค่ะ

✔ป้องกันความอับชื้นภายในห้อง
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ห้องมักจะมีความชื้นมากขึ้นเป็นพิเศษ ส่งผลให้บรรยากาศในห้องไม่น่าอยู่ได้ง่าย ดังนั้นควรทำความสะอาดห้องอย่างสม่ำเสมอ ให้อากาศถ่ายเท และนำสิ่งของที่ดูดความชื้นไปตากแดด เพื่อเป็นการลดความชื้นภายในห้อง

✔หมั่นทำความสะอาดระเบียง
หากพื้นระเบียงคอนโดของคุณเป็นพื้นที่ทำให้ลื่นหรือมีน้ำขังได้ง่าย ควรหมั่นที่จะทำความสะอาดไม่ให้มีตะไคร่น้ำ และคอยเช็คท่อระบายน้ำว่ามีเศษกิ่งไม้ ใบไม้ เศษขยะไปอุดตันอยู่ที่ท่อระบายน้ำหรือเปล่า เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาน้ำขังและท่อระบายน้ำอุดตัน

✔การตากผ้าในฤดูฝน
เป็นอีกปัญหาหลักของผู้ที่อยู่คอนโด เพราะไม่รู้จะตากที่ไหน ตากที่ระเบียงก็กลัวจะถูกฝนสาด ผ้าไม่แห้งแถมยังมีกลิ่นอับ สำหรับเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบางๆ สามารถนำมาตากภายในห้องหรือตากไว้หน้าคอมเพรสเซอร์แอร์ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผ้าแห้งและไม่มีกลิ่นอับได้ ส่วนเสื้อผ้าที่หนาๆ ควรนำไปอบให้แห้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นอับชื้น

✔กำจัดแมลงที่มาเยือนคอนโด
พอเริ่มเข้าหน้าฝนก็มักจะมีเหล่าแมลงออกมาบุกห้องของคุณจนจัดการกันไม่หวาดไม่ไหว ดังนั้นลองนำลูกเหม็นไปวางตามจุดอับต่างๆ ด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์จะทำให้สัตว์แมลงต่างๆ ไม่ชอบแล้วหนีไปเองค่ะ

🐣แต่ฤดูไหนก็ไม่ใช่ปัญหา! ที่ Living Nest เพราะเราออกแบบพื้นที่ Double Living Space ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งระเบียง และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขึ้นโดยไม่ต้องกังวัลต่อสภาพอากาศเลยค่ะ

สำหรับสายคาเฟ่คนไหนที่ชอบหาร้านสวยๆ มีสไตล์ ถ่ายรูปเล่น แถมบรรยากาศดี วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 คาเฟ่น่า Check In ย่านลาดพร้าว ซึ่งแต่ละร้านก็อยู่ไม่ไกลจาก Living Nest ลาดพร้าว 44 จะมีคาเฟ่ไหนบ้างไปดูกันดีกว่าค่ะ

1. Portobello & Desire | Home : Garden
ร้านคาเฟ่กลางสวน แนววินเทจสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ตั้งอยู่ในซอยประเสริฐมนูกิจ 22 บรรยากาศเหมือนบ้านเล็กๆ ในสวน ร่มรื่น สบายตา เหมาะกับการนั่งทานอาหาร พูดคุยกับเพื่อนๆ จิบชาถ่ายรูปสวยๆ ทางร้านมีทั้งเมนูอาหารฝรั่งเศสและเบเกอรีที่อบใหม่ทุกวัน โดยมีเมนูแนะนำเป็นพายมะพร้าวสูตรดั้งเดิมของทางร้าน

ร้านเปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – วันพฤหัส เวลา 11.00 – 21.00 น.
วันศุกร์ – วันอาทิตย์ 11.00 – 22.00 น.
📍พิกัด : https://bit.ly/2KGsXwB

2. Wood cafe
Wood café ร้านคาเฟ่ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาพันธ์ ที่ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ร้านตั้งอยู่ที่ซอย ลาดพร้าววังหิน 48 ภายในร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และยังมีโซนเอ้าดอร์ให้นั่งชิวๆ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นอาหารสไตล์ตะวันตกที่มีรสชาติจัดจ้านแบบของไทย เมนูที่ห้ามพลาดเลยจะเป็น สปาเก็ตตี้ไส้อั่วผัดพริกแห้ง

ร้านเปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์ – วันอาทิตย์ เวลา 11.30 – 21.00 น.
📍พิกัด : https://bit.ly/2KHEcoF

3. Dude Cafe
คาเฟ่สุดชิค ตกแต่งสไตล์ Loft ให้ความรู้สึกเท่ๆ เก๋ๆ ตั้งอยู่ที่โชคชัย 4 ซอย 78 ภายในร้านตกแต่งด้วยผนังอิฐดิบ แต่ให้บรรยากาศที่สบายนั่งชิลล์ได้ เหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือหรือนั่งทำงาน ส่วนเมนูเครื่องดื่มและของหวานที่ห้ามพลาดเลยของร้านนี้ คือ Mojito Mint French Toast with Nutella and Banana

ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 9.00 – 24.00 น.
📍พิกัด : https://bit.ly/2kdUFpu

4. REC Vinyl & Cafe
จากร้านขายแผ่นเสียงกลายมาเป็นคาเฟ่สุดแนว ใกล้กับ MRT พหลโยธิน ทางออก 2 ทางร้านได้แบ่งพื้นที่เป็นสองส่วน ชั้นแรกเป็นโซนคาเฟ่ ส่วนชั้นสองจะเป็นที่เก็บแผ่นไวนิลทั้งหมด ภายในร้านให้ความรู้สึกเท่แฝงด้วยความเรียบง่าย เมนูส่วนใหญ่เหมาะที่จะทานแกล้มกับเบียร์ และทางร้านได้แนะนำเมนู ยำส้มโอกุ้งสด ทานกับใบชะพลู ก็จะให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ไปอีกแบบ

ร้านเปิดให้บริการวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 15.00 – 00.00 น.
📍พิกัด : https://bit.ly/2wYhvun

5. 1839 Cafe&Gallery
1839 เป็นทั้งคาเฟ่และแกลลอรีเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจในสไตล์มินิมอล ร้านตั้งอยู่ปากซอยลาดพร้าววังหิน 62 ซึ่งในบางครั้งก็จะมีการจัดแสดงงานภาพถ่ายตามฝาพนัง ส่วนเมนูที่ขึ้นชื่อของทางร้านจะเป็น Analog Set เป็นเมนูที่ให้เรา DIY ได้เอง ในเซตประกอบไปด้วย นมสด ไซรัปและน้ำแข็งรสชาติต่างๆ ให้คุณได้ลองทำด้วยตัวเอง

ร้านเปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ 13.00 – 23.00 น.
วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 11.00 – 23.00 น.
📍พิกัด : https://bit.ly/2rWaF3t

อยากเที่ยวยุโรปแบบไม่ต้องใช้วีซ่ามาทางนี้ เพราะวันนี้เจี๊ยบมี 2 ประเทศน่าไปเยือนแห่งยุโรปที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหน และยังไม่ต้องง้อวีซ่าอีกด้วย

1. รัสเซีย
ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก กินพื้นที่ทั้งทวีปเอเชียและยุโรปตะวันออก โดยมีกรุงมอสโควเป็นเมืองหลวง รวมถึงแลนมาร์คที่สำคัญเหมาะแก่การไปเช็คอินอย่างมหาวิหารเซนต์บราซิล จตุรัสแดง และพระราชวังเครมลิน เป็นต้น อีกทั้งในปี 2018 นี้ประเทศรัสเซียยังเป็นเจ้าภาพในการจัดฟุตบอลโลกอีกด้วยนะ หากใครชอบไปดูความสวยงามของสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือน เข้าชมพิพิธภัณฑ์แคทเธอรีน และสัมผัสกับความเป็นยุโรปมากกว่าเดิม แนะนำให้ไปเที่ยวที่กรุงเซนต์ปีเตอร์เบิร์กได้เลย

2. ตุรกี
ประเทศมนต์เสน่ห์แห่งยุโรปตะวันออกที่ผสมผสานวัฒนธรรมและอารยธรรมต่างๆ ไว้มากมาย รวมถึงเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมีเอกลักษณ์ในเมืองหลวงอย่าง อิสตันบูล เช่น จตุรัสด่านอาห์เหม็ด วิหารเซนต์โซเฟีย และ พระราชวังโดลมาบาห์เช เป็นต้น และจะพลาดไม่ได้เลยกับการไปเที่ยวเมืองคัปปาโดเกีย หรือที่หลายๆ คนเคยเห็นกับการขึ้นบอลลูนชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของเมืองแห่งมรดกโลกนี้